

ที่ปรึกษาในการยื่นขอ มอก.
การขอเครื่องหมาย มอก.
ผู้ผลิต หรือ ผู้นำเข้า (Importer) ที่ต้องการใช้ตรา มอก. ไม่ว่าจะเป็นผลิตภัณฑ์ในหมวดบังคับ หรือไม่บังคับ ต้องศึกษามาตรฐานของผลิตภัณฑ์ให้เข้าใจ ซึ่งรายการมาตรฐาน มอก. ต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ สามารถดูได้จากเว็บไซต์ของสำนักงานมาตรฐานกระทรวงอุตสาหกรรม www.tisi.go.th และหนังสือมาตรฐาน มอก. ต่างๆ สามารถหาซื้อได้ที่สำนักงานมาตรฐานกระทรวงอุตสาหกรรม

ผลิตภัณฑ์ที่ต้องการใช้ตรา มอก. จะต้องถูกออกแบบให้สอดคล้องกับมาตรฐานที่เกี่ยวข้อง ผู้ผลิตควรทำการทดสอบเบื้องต้นตามวิธีการมาตรฐาน เมื่อแน่ใจว่าผ่านแล้วจึงดำเนินการ ขอใช้ตรา มอก. ผู้ผลิตสามารถจัดการทดสอบเบื้องต้นเอง (บุคลากร + เครื่องมือทดสอบ + วิธีการทดสอบ พร้อม) หรืออาจใช้บริการหน่วยงานที่ให้บริการทดส อบที่มีความสามารถตามมาตรฐานนั้นๆ (ดูได้จากเว็บไซต์ของสำนักงานมาตรฐานกระทรวงอุตสาหกรรมในหมวดการรับรองห้องปฏิบัติการ www.tisi.go.th)
การจัดเตรียมเอกสาร
ที่เกี่ยวข้อง
การทดสอบผลิตภัณฑ์ตามมาตรฐาน มอก.
การทดสอบมาตรฐานผลิตภัณฑ์ มอก. โดยห้องปฏิบัติการทดสอบที่ได้การรับรองตามมาตรฐาน ISO/IEC17025


การตรวจโรงงานผลิต
นอกจากผลิตภันฑ์ต้องผ่านการทดสอบแล้ว สถานที่ผลิต ขบวนการการผลิต จะต้องถูกตรวจสอบด้วย ซึ่งจุดประสงค์ของการตรวจสอบ เพื่อตรวจระบบการควบคุมคุณภาพ ซึ่งเริ่มตั้งแต่
1. การตรวจรับวัตถุดิบ -> การจัดเก็บวัตถุดิบ -> ขั้นตอนการผลิต -> การควบคุมการผลิต-> การตรวจคุณภาพในขบวนการผลิต ->การตรวจคุณภาพก่อนการส่งมอบ -> การบรรจุภัณฑ์
2. การอบรมบุคลากร
3. การควบคุมเครื่องมือวัดและทดสอบที่ใช้ในขบวนการผลิต
โดยทั่วไป โรงงานผลิตที่ปฏิบัติตามมาตรฐาน ISO 9000 อย่างเคร่งครัดจะสามารถผ่านขั้นตอนการตรวจโรงงานโดยเจ้าหน้าที่ สมอ.


ขั้นตอนการดำเนินงานสำหรับผู้ผลิตในประเทศ
1. ขออนุญาตผลิตจากกระทรวงอุตสาหกรรม
2. จัดเตรียมตัวอย่างเพื่อการทดสอบ (สมอ. จะกำหนด ห้อง Lab. ที่ใช้ทดสอบ)
3. เมื่อตัวอย่างผ่านการทดสอบ ให้จัดเตรียมการตรวจโรงงานครั้งแรก
4. เมื่อผ่านขั้นตอนการตรวจโรงงานครั้งแรกเรียบร้อยแล้ว จึงจะได้รับใบอนุญาติให้ทำการผลิตและใช้ตรา มอก. บนผลิตภัณฑ์
5. ใบอนุญาติการผลิตจะมีผลตลอดไป จนกว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงใดๆในเนื้อหามาตรฐานนั้นๆ และเจ้าหน้าที่ สมอ. จะแจ้งให้ผู้ผลิตทราบล่วงหน้า
6. เจ้าหน้าที่ สมอ. จะมีการตรวจติดตามผลโรงงานผลิต เริ่มจากปีถัดไป ปีละครั้ง
7. ผู้ผลิตต้องรับผิดชอบใน ค่าใช้จ่ายใดๆ เช่น การทดสอบ ใบอนุญาติการผลิต ค่าเดินทาง ค่าตรวจโรงงานผลิตครั้งแรก ค่าตรวจติดตามผลโรงงานผลิตในปีถัดไป
8. ผู้ผลิตมีหน้าที่ต้องรับผิดชอบในทางกฏหมาย ในสินค้านั้นๆ
ขั้นตอนการดำ เนินงานสำหรับผู้นำเข้าจาก
ต่างประเทศ (Importer)
1. ขออนุญาตินำเข้าจากกระทรวงอุตสาหกรรม
2. จัดเตรียมตัวอย่างเพื่อการทดสอบ (สมอ. จะกำหนด ห้อง Lab. ที่ใช้ทดสอบ)
3. เมื่อตัวอย่างผ่านการทดสอบ ให้จัดเตรียมการตรวจโรงงานครั้งแรก
4. เมื่อผ่านขั้นตอนการตรวจโรงงานครั้งแรกเรียบร้อยแล้ว จึงจะได้รับใบอนุญาติให้ใช้ตรา มอก. บนผลิตภัณฑ์ และนำเข้าได้
5. ใบอนุญาตินำเข้าจะมีผลตลอดไป จนกว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงใดๆในเนื้อหามาตรฐานนั้นๆ และเจ้าหน้าที่ สมอ. จะแจ้งให้ผู้นำเข้าทราบล่วงหน้า
6. เจ้าหน้าที่ สมอ. จะมีการตรวจติดตามผลโรงงานผลิต เริ่มจากปีถัดไป ปีละครั้ง
7. ผู้นำเข้าต้องรับผิดชอบใน ค่าใช้จ่ายใดๆ เช่น การทดสอบ ใบอนุญาตินำเข้า ค่าเดินทาง ค่าตรวจโรงงานผลิตครั้งแรก ค่าตรวจติดตามผลโรงงานผลิตในปีถัดไป
8. ผู้นำเข้ามีหน้าที่ต้องรับผิดชอบในทางกฏหมายในสินค้านั้นๆ
ให้บริการที่ปรึกษา
เพื่อยื่นขอ มอก.
การบริการให้คำปรึกษาของเราจะช่วยให้ลูกค้าเข้าใจถึงขอบเขตของผลิตภัณฑ์ว่าตัวใดเหมาะสมและช่วยให้ลดเวลาและค่าใช้จ่ายในการยื่นขอการรับรอง ลูกค้าที่ใช้บริการเรา เราจะให้คำปรึกษาในทุกเรื่อง
จากประสบการณ์ที่ได้ทำงานเกี่ยวข้องกับการยื่นขอการรับรองผลิตภัณฑ์ตามมาตราฐานอุตสาหกรรมมานาน (มอก.) เราพบปัญหาหลายๆอย่างที่ผู้ยื่นขอทั่วๆไปพบ ยกตัวอย่างเช่น
การเข้าใจผิดเกี่ยวกับข้อกำหนดซึ่งจะทำให้ลูกค้าเสียเวลาในการต้องเริ่ มต้นใหม่และยังต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มมากขึ้น

อุปสรรคอื่นๆ
ที่สร้างปัญหาในการ
ยื่นขอการรับรอง:
-
ยื่นเอกสารไม่ถูกต้อง รวมถึงยื่นเอกสารไม่ครบ
-
เตรียมตัวอย่างที่ใช้ในการทดสอบไม่ถูกต้อง
-
ผลการตรวจโรงงานไม่ผ่านซึ่งอาจเกิดจากการที่ไม่ได้เตรียมพร้อมทางด้านระบบคุณภาพ
-
ยื่นผลิตภัณฑ์ผิดขอบเขตที่กำหนดไว้
รายการที่ปรึกษาช่วยดำเนินการ
-
เตรียมการตรวจสอบระบบคุณภาพขององค์กรเบื้องต้นก่อนทำการรับรอง
-
ให้คำแนะนำในการเตรียมระบบคุณภาพให้สอดคล้องกับข้อกำหนด
-
ให้คำแนะนำในการเตรียมเครื่องทดสอบและบันทึกต่างให้สอดคล้องกับข้อกำหนด
-
ให้คำแนะนำในการเตรียมตัวอย่างไปทดสอบให้สอดคล้องกับข้อกำหนด
-
ให้คำแนะนำในการเลือก ผู้ตรวจสอบเอกชนและห้องทดสอบตัวอย่าง
-
อื่นๆ